วันอังคารที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

เปรียบเทียบ ระหว่าง Samsung Gear VR กับ Google Cardboard

เปรียบเทียบ ระหว่าง Samsung Gear VR กับ Google Cardboard



Samsung Gear VR
Google Cardboard
         ราคา 6,400 บาท
         ราคา 690 บาท
         ขนาด 4.6 นิ้ว
          ขนาด 6.7 นิ้ว
         ใช้ได้แต่ Samsung Galaxy Note 4 เท่านั้น
          ใช้กับโทรศัพท์รุ่นอะไร ยีห้ออะไรก็ได้ที่มีขนาด 6.7 นิ้ว
       สามารถใส่ MicroSD Card เพิ่มวีดีโอไว้ชมได้
         ไม่สามารถเพิ่ม MicroSD Card ได้
         มี Touch pad ไว้เลื่อนแทนเมาส์
          ใช้การส่ายศีรษะ และเลื่อนแม่เหล็กแทนเมาส์
         สามารถปรับสายตาสำหรับคนสายตาสั้น สายตายาวได้โดยไม่ต้องใส่แว่นตา
         ไม่สามารถปรับสายตาได้
      ไม่สามารถตกแต่งได้ง่าย เพราะตัวแว่นเป็นพลาสติก
         สามารถตกแต่งได้ตามความต้องการของผู้ใช้ เพราะว่าเป็นกระดาษจึงสามารถวาดรูปได้ตามความต้องการ
       มีสายรัดศีรษะ
          ไม่มีสายรัดศีรษะ ต้องถือ
         รูปทรงสวยงาม ทนทาน
          เนื่องจากเป็นกระดาษจึงไม่ทนทาน

วันจันทร์ที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

การทำงาน Google Cardboard



          แอพพลิเคชั่นที่ชื่อ Cardboard ลงในสมาร์ทโฟน ที่ทำออกมาเพื่อใช้กับ Google Cardboard โดยเฉพาะ 

ข้อจำกัดสำคัญของ Google Cardboard และแว่น VR 

การใช้งานกับผู้ที่มีปัญหาด้านสายตา เช่น สายตาสั้น สายตายาว สายตาเอียง ซึ่งปกติการใส่แว่นก็จะช่วยได้ แต่พอมาใส่แว่น VR แล้ว มันใส่แว่นสายตาไม่ได้ ถ้าใครไม่ได้ใส่คอนแท็กเลนส์ก็อาจจะได้ประสบการณ์ไม่ดีเท่าไหร่ ถ้าเป็นพวกต้นทุนต่ำแบบ Google Cardboard  มันปรับโฟกัสของภาพไม่ได้ ก็จะลำบากเลย  แต่พวกต้นทุนสูงหน่อย อย่าง Galaxy Gear VR นั้น มันมีตัวปรับโฟกัสช่วย แต่มันก็ไม่ช่วยสำหรับคนสายตาเอียงอยู่ดี
ความเมื่อยล้าทางสายตา มันค่อนข้างเป็นภาระกับสายตาของผู้ใช้งานไม่น้อยเลย แต่ละคนจะแตกต่างกันออกไป การใช้งานติดต่อกันซัก 2-3 ชั่วโมงไม่ค่อยจะเป็นปัญหาเท่าไหร่ แต่ถ้าไปดูพวกจอ 3-D แบบ Parallax Barrier (ลองนึกถึง LG Optimus 3D, Optimus 3D MAX หรือ HTC EVO 3D ดู) แล้วปวดตา หรือเล่นเกมแนว First-person Shooting แล้วเวียนหัว จะมีปัญหากับการใช้แว่น VR แบบนี้ได้ง่าย  ตรงนี้จะเป็นอุปสรรคหลักที่จะทำให้คนไม่มาโอบอุ้มเทคโนโลยี VR ซักเท่าไหร่
แบตเตอรี่ของอุปกรณ์ เนื่องจากหลักการของการแสดงผลคือการแบ่งหน้าจอสมาร์ทโฟนออกเป็น 2 ส่วน ประมวลผลแยกซ้ายขวา ดังนั้นมันจึงต้องการสเปกฮาร์ดแวร์ระดับหนึ่ง เพราะต้องการความสามารถในการประมวลผลพอสมควรเลย โดยเฉพาะหากจะแสดงผลออกมาเป็นแบบ 3D แล้วไหนจะต้องใช้งานเซ็นเซอร์ทั้ง Accelerometer, Gyroscope และเซ็นเซอร์แม่เหล็กอีก  แน่นอนว่าเรื่องประสิทธิภาพไม่น่าจะเป็นปัญหา เพราะเมื่อเวลาผ่านไป อุปกรณ์ประสิทธิภาพสูงขึ้น ราคาก็ถูกลงอีก แต่อุปสรรคหลักก็คือ แบตเตอรี่ เพราะประมวลผลเยอะๆ เซ็นเซอร์อีกเพียบ เท่ากับกินแบตเตอรี่ จากที่ทดสอบกับ LG Nexus 5 พบว่า แค่ใช้งานไม่ถึงชั่วโมง แบตเตอรี่ก็ลดไปร่วม 40% แล้ว ซึ่งประเด็นเรื่องนี้ จะเป็นอุปสรรคหลักสำหรับผู้ที่จะใช้เทคโนโลยี VR 
Use Google Cardboard For The Best (And Cheapest) 3D Experience

Google Cardboard

Google Cardboard 



           ในงาน Google I/O 2014 เมื่อเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2557 ทาง Google ได้แสดงผลงานตัวหนึ่ง นั่นก็คือ Google Cardboard ซึ่งภายในงานก็ได้มีการแจก Google Cardboard ให้ฟรีกับผู้เข้าร่วมงานกันทุกคนกลับเล่นกัน สิ่งที่ทำให้มันน่าสนใจก็คือการที่มันทำขึ้นมาจากกระดาษ เพียงแค่ประกอบๆแล้วใช้        สมาร์ทโฟน เสียบเข้าไปเพื่อใช้เป็นหน้าจอแสดงผล เท่านี้ก็ได้แว่น VR ที่ทำได้ง่ายๆ

 วัสดุ/อุปกรณ์


      1.กระดาษลัง
      2.ตีนตุ๊กแก
      3.หนังยาง
      4.เลนส์สำหรับขยายภาพคู่
     5.แม่เหล็ก
     6.แท็ก NFC
     7.กาวสองหน้า

ข้อดี ข้อเสีย ประโยชน์

ข้อดีของ   Samsung Gear VR

-          หน้าจอที่สามารถแสดงผล VDO 3 มิติ ได้ในรอบทิศทาง (360 องศา)
-          การแสดงผลแบบ Quad HD Super AMOLED เฟรมเรต 60 เฟฟรมต่อนาที
-          ระบบเสียงสามารถเลือกได้ว่าจะใช้หูฟังหรือเปิดออกลำโพง
-          สามารถใช้งานได้กับทุกช่วงวัย เพราะการปรับโฟกัสที่ครอบคลุมทั้งคนสายตาสั้นและสั้นตายาว
-          การทำงานเป็นเอกเทศ คือ ผู้ใช้สามารถขยับตัวหรือพกพาไปข้างนอกได้อย่างอิสระ
-          สามารถมองทะลุผ่านกล้องหลังของสมาร์ทโฟน เพื่อให้สามารถกลับมามองโลกจริงได้แบบ       ชั่วคราว เพื่อคุยกับคนรอบข้างโดยไม่ต้องถอดแว่นออก


ข้อเสีย Samsung Gear VR

-          รูปทรงและน้ำหนัก รวมถึงสายรัดศีรษะที่อาจทำให้ปวดหัวหากใช้ไปนานๆ ระบบจัดการ      
           เคลื่อนไหว      สามารถทำได้แต่หันหน้าเปลี่ยนทิศทางรอบๆเท่านั้น
-          ไม่รองรับความลึกจากการขยับเดินหน้าถอยหลังสามารถใช้คู่กับสมาร์ทโฟนได้เพียงรุ่นเดียว 
           คือ Galaxy Note4


ประโยชน์ Samsung Gear VR

-  นำเทคโนโลยีระบบเสมือนจริง มาใช้ประโยชน์เพื่อให้ชีวิตประจำวันสนุกและสมบูรณ์แบบมากยิ่ง
    ขึ้น   โดยการแสดงผลด้วยสื่อประสม การสร้างภาพ 3 มิติ ที่สามารถมองเห็นเหมือนเป็นภาพ 3มิติจริงๆ
-  สามารถดูภาพยนตร์ 3 มิติ ได้อย่างเสมือนจริงๆ คือ สามารถรับชมภาพยนตร์ที่เชื่อมต่อผ่านสมาร์ท   โฟนได้โดยไม่ต้องก้มหน้า หรือใช้มือถือสมาร์ทโฟน เพราะสามารถสวม Gear VR ไว้ ที่ศีรษะโดยมีสาย  รีดที่พอดี ไม่แน่นจนเกินไป โดยสายรัดมีความยืดหยุ่นและปรับระดับได้

-   สามารถเล่นเกมส์ได้อย่างไม่สะดุดและเสมือนจริงทำให้เพิ่มอรรถรสในการเล่นเกมส์ให้สนุกมาก            ยิ่ง ขึ้น

ซอฟแวร์ที่ใช้&คุณสมบัติ

ซอฟแวร์ที่ใช้





             ซอฟต์แวร์ดังกล่าวมีชื่อว่า “Gear VR Manager” เป็นแอพที่คอยตั้งค่าการใช้งานให้กับแว่นตาอัจฉริยะ Samsung Gear VR ทำหน้าที่เป็นตัวกลางติดตั้งแอพที่พัฒนาขึ้นเฉพาะกับแว่นตาบนสมาร์ทโฟน Samsung Galaxy โดยสามารถดาวน์โหลดแอพได้ที่ Samsung Apps  ซึ่งตัวอย่างแอพที่กำลังติดตั้ง ได้แก่ VR Panorama, VR Cinema และ HMT Manager เมื่อทำการเชื่อมต่อระหว่างสมาร์ทโฟน Samsung Galaxy กับแว่นตา Gear VR แล้ว ทันทีที่มีการเรียกใช้งานฟังก์ชันต่างๆ การแสดงผลจะไปปรากฏที่จอกระจกของแว่นตา โดยมีการสอนการใช้งานแว่นตา Samsung Gear VR เพื่อให้ใช้งานที่ถูกต้อง


ภาพที่เห็นภายในตัว Gear VR





             สำหรับตัว Gear VR นั้น จะมีเซ็นเซอร์ที่คอยจับการเคลื่อนไหวของศีรษะ ในขณะกำลังสวม ซึ่ง มันทำงานออกมาได้ดีมาก ถ้าเล่นเกมประเภท Shooting หรือเกมยิงยาน จะได้เล่นมันในมุมมองสามมิติ แบบ 360 องศา ประมาณว่า เป้าจะเคลื่อนตามหัว หัวไปทางไหน เป้าก็จะไปตามนั้น ไม่ทำให้เวียนหัว เพราะว่าการทำงานออกมาได้อย่างดี คือ มีการสมดุล ไม่มีการประมวลผลไม่ทัน จึงทำให้เพลินมากกว่าเวียนหัว
สำหรับการชมภาพยนตร์นั้น ด้วยหน้าจอที่สามารถแสดงผลวิดีโอสามมิติได้ในรอบทิศทาง กับเลนส์ในตัวที่ให้มุมมองกว้างถึง 96 องศา บวกกับพลังประมวลผล ทำให้การทำงานตอนเวลามองไปรอบๆ (ในมุมมองสามมิติภายในแว่น) ออกมาดีมาก ไม่กระตุกต่อให้หันหัวแบบเร็วๆก็ตาม


คุณสมบัติ Samsung Gear VR

• Optical Len : ให้มุมมองกว้าง 96 องศา
เซ็นเซอร์ : Accelerator, Gyrometer, Magnetic, Proximity
การปรับโฟกัส : ครอบคลุมทั้งสายตาสั้นและยาว
ระยะห่างป้องกันจากดวงตา : 55 – 71 mm
ปุ่มใช้งานบนอุปกรณ์ : Touch Pad, ปุ่ม Back, ปุ่มเพิ่มลดเสียง 
ขนาดอุปกรณ์ : 198 x 116 x 90 mm
ข้อมูลพร้อมใช้ : MicroSD Card 16 GB, เซ็ตวิดีโอรองรับการชมแบบ 360 องศา, ตัวอย่างหนัง 3D จาก Major Studio และบริษัทอื่นๆที่ยื่นขอเสนอเข้ามา เช่น Vevo เตรียมคลิปกว่า 100,000 รายการแบบ HD รวมถึง IMAX แสดงตัวอย่างหนังแบบ 3D เหมือนในโรงภาพยนตร์













การทำงาน samgsung gear vr

การทำงาน

            Gear VR จะมีส่วนประกอบหลักๆ 2 ส่วนคือ ตัวแว่น กับ ตัว Note 4 ในส่วนการทำงานนั้น  Note 4 จะรับบทเป็นตัวประมวลผลหลัก ทั้งแสดงภาพและเสียง ส่วนควบคุมก็จะเป็นตัว Gear VR ที่จะมีตัวสำหรับทัชแพด อยู่ด้านข้าง เอาไว้ควบคุม มีปุ่มย้อนหลัง(ปุ่มBack) ตัวควบคุมเสียง และยังสามารถควบคุมได้แบบ accelerometer(เร่ง หรือลดความเร็ว) อารมณ์ก็คงเหมือน ปุ่มอนาล็อกบนจอยเกม play ผสมกับตัวทัชแพดบนโน็ตบุ๊ค  นอกจากตัวทัชแพดแล้ว ก็จะมีจอยสติกเป็นอุปกรณ์เสริมมาด้วย เอาไว้สำหรับเพิ่มอรรถรสในการควบคุมและการเล่น สำหรับตัว Note 4 กับ Gear VR นั้น ทั้งสองจะเชื่อมต่อกันโดยผ่านพอร์ต micro USB
           สำหรับ Galaxy Note 4 ที่จะใช้งานกับ Gear VR ได้ จะต้องมีแอพของทาง Oculus ติดตั้งอยู่ พร้อมกับเนื้อหาที่สร้างขึ้นมาโดยเฉพาะ
           ด้านบนสำหรับปรับภาพให้เหมาะกับค่าสายตา ทำให้คนสายตาสั้นหรือสายตายาว ไม่ต้องเจอปัญหาต้องใส่ Gear VR ครอบทับ


            ด้านข้างขวามือ จะเห็นปุ่ม Back สำหรับการกลับไปก่อนหน้า, Trackpad สำหรับการช่วยนำทาง แล้วก็ปุ่มปรับระดับขึ้นลง ให้สอดคล้องกับสายตาของคนที่มอง


             เมื่อแกะฝาครอบด้านหน้า ก็จะเป็นที่ใส่ Galaxy Note 4 ซึ่งมีพอร์ต Micro USB และที่ยึด เอาไว้ให้ยึด Note 4 ให้อยู่กับที่พอร์ต micro USB
             

สวมตัวแว่น Gear VR เข้าไป มีฟองน้ำรองอย่างดี ใส่แล้วไม่เจ็บ เลนส์ตรงกลางก็ค่อนข้างคุณภาพดี ด้านขวาจะมีเซนเซอร์เพื่อยืนยันว่าได้สวมตัว Gear VR เข้าไปแล้ว ซึ่งถ้าเซนเซอร์นี้ตรวจสอบไม่พบว่าสวมแว่นอยู่ พวกคำสั่งในการควบคุมจะไม่ทำงาน


กรอบพลาสติกปิดตัว Note4 ให้อีกชั้นหนึ่งเพื่อกัน Note4 หล่นออกมาจากตัวเครื่อง